03 มีนาคม 2552

องค์กรอัจฉริยะ (Organization Intelligence)

คือ องค์กรที่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างชาญฉลาด และสามารถปรับตัวเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างมีเอกลักษณ์ รวมทั้งการสร้างคุณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
ในอดีตโรงงานและเครื่องจักร จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญ แต่ในปัจจุบันนี้ การเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาทางเทคโนโลยีทำให้คุณค่าทางทรัพย์สินลดลงอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่สำคัญเพิ่มขึ้น คือ พลังอัจฉริยภาพของคนที่อยู่ในองค์กร ที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความสามารถที่แข่งขันได้ ไม่เฉพาะตลาดในประเทศแต่รวมถึงในตลาดโลกด้วย ดังนั้น พลังอัจฉริยภาพขององค์กรขึ้นอยู่กับการรวมอัจฉริยภาพส่วนบุคคลและสามารถดึงเอาพลังที่ซ่อนเร้นที่มีอยู่มาใช้ได้อย่างสูงสุด และสร้างกระบวนการในการประสานรวม อีกทั้งสามารถพัฒนาให้เกิดการต่อยอดทางนวัตกรรมเพื่อคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งมีกระบวนการเรียนรู้และสร้างแนวทางในการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพที่หมั่นพัฒนาปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า

การสร้างองค์กรอัจฉริยะเป็นกระบวนการที่ต้องต่อเนื่อง เพราะการเรียนรู้และ การประสานที่เกิดขึ้นนั้นจำเป็นที่ต้องมีการหมุนเวียนไปอย่างต่อเนื่อง และต้องมีการปรับปรุงทั้งในทิศทางที่จะนำพาความเก่งขององค์กร การสร้างกระบวนการปลดปล่อยอย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับที่สำคัญก็คือ กระบวนการนี้แบ่งเป็น 5 ขั้นตอนด้วยกันหรือที่เราเรียกกันว่า “กระบวนการที่สร้างความฉลาด” (S-M-A-R-T development process)
S - Strategic Vision and cultural formation การกำหนดวิสัยทัศน์และวัฒนธรรม
M - Manage intelligence empowerment process การเจียระไนพลังที่มีอยู่ภายใน
A - Architect organization competencies การสร้างสถาปัตยกรรมในการปลดปล่อยอัจฉริยภาพ
R - Realign win-win learning system การสร้างระบบการเรียนรู้ขององค์กร
T - Transform wisdom into action สร้างอัจฉริยภาพให้กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างเป็นรูปธรรม

S - Strategic Vision and cultural formation (การกำหนดวิสัยทัศน์และวัฒนธรรม) องค์กรที่มีพลังและสามารถประสานอัจฉริยภาพในองค์กรจำเป็นที่จะต้องมีจุดประสงค์และเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่จะนำพาให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยพลังที่สร้างสรรค์จากการปลดปล่อยอัจฉริยภาพของทุกคนในองค์กร ตลอดจนสามารถที่จะสร้างความท้าทายในการปลดปล่อยพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในที่ยังไม่ได้ใช้จากบุคคลากรในองค์กรด้วย การสร้างวิสัยทัศน์เป็นศิลปะของผู้นำองค์กรที่ต้องสร้างกุศลโยบายในการประสานพลังแห่งความปรารถนาที่มีอยู่ในตัวบุคคลากรทุกคนไปสู่จุดมุ่งหมายที่กลายเป็นจุดร่วมอันยิ่งใหญ่ ถ้าผู้บริหารระดับสูงสามารถใช้วิสัยทัศน์ได้อย่างถูกต้องแล้วการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ร่วมกันจะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารพลังอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ในใจของคนในองค์กรที่ต้องการจะประสานพลังแห่งอัจฉริยภาพ เพราะถ้าหัวใจขององค์กรยังไม่มีพลังพอ การดึงเอาพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในก็เป็นไปได้ยาก เพราะการสื่อสารวิสัยทัศน์ จำเป็นที่ต้องเข้าถึงคนทุกระดับในองค์กรทั้งความท้าทาย ความเชื่อมั่นในแนวทาง คำมั่นสัญญาของทุกคนในองค์กรที่จะสร้างให้เกิดความสำเร็จร่วมกัน ตลอดจนกำลังใจและความกล้าในการสร้างความฝันนั้นให้เกิดเป็นความจริงขึ้นมา นอกเหนือจากเป้าหมายที่คมชัดและมีความหมายแล้ว ค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การปลดปล่อยพลังแห่งอัจฉริยภาพขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

M - Manage intelligence empowerment process (การการเจียระไนพลังที่มีอยู่ภายใน) เมื่อองค์กรมีความพร้อมทั้งเป้าหมายที่มีพลังรวมทั้งบรรยากาศและวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอัจฉริยภาพ ผู้บริหารในองค์กรจำเป็นที่จะต้องมีความสามารถในการเจียระไนและปลดปล่อยอัจฉริยภาพของบุคคลากรในองค์กร ทั้งยังต้องสร้างทักษะในการค้นหาพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน องค์กรที่ต้องการสร้างอัจฉริยภาพจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเสริมสร้างกระบวนการคิดนี้ให้เกิดขึ้นในพนักงานทุกระดับเพื่อให้ทุกคนนำเอาพลังที่มีอยู่ในตัวให้ออกมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกเหนือจากนั้นแล้วทุกคนก็จะมี Leadership intelligence blueprint หรือพิมพ์เขียวของตัวเองในการพัฒนาภาวะผู้นำซึ่งจะประกอบด้วยความถนัดเชิงอัจฉริยภาพ เป้าหมายที่คมชัดทั้งในระยะยาวและสั้นพร้อมกับเนื้อหาของงานที่ชอบและไม่ชอบ รวมทั้งกลยุทธ์การเจียระไนให้เข้ากับบุคลิกภาพของตัวเอง
มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ทุกคนมีความมั่นใจและเห็นแนวทางที่เด่นชัดในการดึงเอาอัจฉริยภาพที่มีอยู่มาใช้ให้สูงสุด

A - Architect organization competencies (การวางสถาปัตยกรรมในปลดปล่อยอัจฉริยภาพ) ถ้าองค์กรมีความพร้อมทั้งเป้าหมายที่ชัดเจน บรรยากาศที่ให้กำลังใจ และเน้นการประสานอัจฉริยภาพ ตลอดจนสร้างพิมพ์เขียวและกระบวนการในการเจียระไนอัจฉริยภาพ องค์กรจำเป็นที่จะต้องสร้าง Methodology หรือ กระบวนการปฏิบัติในการที่จะสร้างระเบียบและการสื่อสารพลังร่วมกัน ตั้งแต่กรอบความคิดในการมองปัญหา การติดสินใจและการหาแนวคิดหาทางเลือก การบริหารการเปลี่ยนแปลง การสื่อสารและสร้างสัมพันธ์ และการประสานการต่อยอดความคิดของทีมงาน

R - Realign win-win learning system (การสร้างระบบการเรียนรู้ขององค์กร) เมื่อองค์กรมีการสร้างความสามารถในการประสานอัจฉริยะให้เป็นหนึ่งเดียว การสร้างระบบของการเรียนรู้และการปรับความสามารถจะทำให้เกิดการต่อยอดของอัจฉริยภาพเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการใช้อัจฉริยภาพที่มีอยู่อย่างชาญฉลาด เพื่อให้เกิดคุณค่าทั้งภายในองค์กรและภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลูกค้าคนสำคัญ พนักงานในองค์กร ผู้ถือหุ้นและสังคมโดยส่วนรวมนับเป็นสิ่งที่สำคัญ
T - Transform wisdom into action (สร้างอัจฉริยภาพให้กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างเป็นรูปธรรม) กระบวนการสุดท้ายเป็นการรวมรวมเอากระบวนทั้ง 4 หล่อหลอมให้เกิดเป็นปัญญาแก่ผู้ปฏิบิติการ เพื่อสร้างเป็นเอกลักษณ์ของการปฎิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมพนักงานในองค์กร ผู้ถือหุ้นและสังคมโดยส่วนรวมนับเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการสร้างอัจฉริยภาพขององค์กรทั้งในแนวการสร้างวิสัยทัศน์ วัฒนธรรม การสร้างพิมพ์เขียวในการเจียระไน การสร้างสถาปัตย์กรรมและวางระบบการเรียนรู้ขององค์กร บางครั้งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่หลายมิติด้วยกัน ถ้าไม่มีการวางแผนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบแล้วอาจเกิดการต่อต้านหรือเกิดความยากลำบากในการปรับตัวเข้ากับประบวนการคิดใหม่ ๆ
" สิ่งที่สำคัญในการต่อยอดอัจฉริยภาพก็คือการสร้างพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่แนบแน่น การเข้าถึงจิตใจและสร้างสายสัมพันธ์ รวมทั้งการสร้างบัญชีแห่งความประทับใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสัมพันธภาพที่ดี "
อ้างอิง APIC Leadership Series 2000